เซ็กส์ปลอดภัย

ในการมีเพศสัมพันธ์ มีอุปกรณ์หลากหลายที่เราสามารถใช้เพื่อป้องกันตัวเองขณะมีได้ แต่ว่าอุปกรณ์แต่ละอย่างมีวิธีใช้ที่ต่างกันและมีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะใช้อุปกรณ์เหล่านี้ มาทำความเข้าใจกับอุปกรณ์เหล่านี้ให้ดีก่อน เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าใช้เมื่อไหร่ และสถานการณ์ไหน

สามารถคลิกเลือกได้จากเมนูนำทาง

ถุงยางอนามัย

ไม่ว่าคุณจะเป็นรุก รับ หรือโบท ต้องใช้ถุงยางอย่างถูกวิธีร่วมกับเจลหล่อลื่นชนิดน้ำเพื่อป้องกันตัวคุณจากเอชไอวี ถุงยางอนามัยเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีที่อยู่ในสารคัดหลั่งของคนที่มีเชื้อ (น้ำอสุจิ หรือเมือกในทวารหนัก) เข้าสู่ร่างกายผ่านเยื่อบุในทวารหนัก หนังหุ้มปลาย ท่อปัสสาวะ และบริเวณหัวอวัยวะเพศ

ใส่ถุงยางให้ถูกวิธีทำยังไง?

ขั้นที่ 1: ใส่ถุงยางตอนจู๋แข็งเต็มที่ ใช้มือค่อยๆฉีกถุงยางออกจากซอง ห้ามใช้ฟันฉีกเพราะอาจพลาดทำให้ถุงยางรั่วหรือฉีกขาดได้ ใช้นิ้วบีบปลายถุงยางเพื่อไล่อากาศแล้วสวมลงตรงหัว การรูดถุงยางจนสุดแล้วใส่เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเพราะอาจทำให้ถุงยางฉีกขาด

ขั้นที่ 2: ค่อยๆรูดถุงยางลงจนถึงโคน การรูดให้ชิดโคนให้มากที่สุดช่วยให้ถุงยางไม่หลุดขณะมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นทาเจลหล่อลื่นชนิดน้ำให้ทั่วถุงยาง และอย่าลืมลงเจลที่ตูดฝ่ายรับให้ชุ่มด้วย

ขั้นที่ 3: เช็คความเรียบร้อยถุงยางเป็นระยะระหว่างมีเซ็กส์ ดูให้แน่ใจว่าไม่หลุด ไม่รั่ว ไม่ขาด ถ้าเอานานควรเพิ่มเจลบ่อยๆ เวลาเอาจู๋ออกให้กำรอบโคนเพื่อให้ถุงยางออกมาพร้อมกัน และต้องเอาออกตอนจู๋ยังไม่อ่อน”

ประสิทธิภาพในการป้องกันของถุงยางลดลงเมื่อใด?

ประสิทธิภาพในการป้องกันของถุงยางลดลง เมื่อ:

ถุงยางอนามัยหาได้ที่ไหนบ้าง?

คลินิกที่ให้บริการตรวจเอชไอวีส่วนใหญ่จะมีถุงยางแจกฟรีให้ผู้เข้ารับบริการ หรือสามารถซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เกต (บิ๊กซี, ท้อปส์) ร้านขายยา

แผ่นยางอนามัย (Dental Dam)

ปัจจุบันมีอุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากมาย ไม่ใช่แค่ถุงยางอนามัยเท่านั้น และการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย หรือเซฟเซ็กซ์ก็เป็นเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้และให้ความสำคัญ

อย่าคิดว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะเกิดขึ้นจากการสอดใส่ได้เพียงอย่างเดียว เพราะการออรัลเซ็กส์ก็ทำให้คุณเสี่ยงติดโรคได้เช่นกัน testBKK จึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ แผ่นยางอนามัย อุปกรณ์ที่จะช่วยให้การออรัลเซ็กส์ของคุณปลอดภัยขึ้น

แผ่นยางอนามัย คืออะไร

แผ่นยางอนามัย (Dental Dam หรือ Rubber Dam) คือแผ่นยางรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสแผ่นบางๆ ส่วนใหญ่ผลิตจากจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน (PU) เริ่มแรกแผ่นยางอนามัยถูกพัฒนาขึ้นสำหรับใช้งานด้านทันตกรรม ช่วยป้องกันการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย

แต่ปัจจุบันถูกนำมาใช้เป็นเครื่องป้องกันการติดเชื้อและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ระหว่างปากกับอวัยวะเพศหญิงหรือทวารหนักตอนออรัลเซ็กส์ด้วย

ใช้แล้วออรัลเซ็กซ์ปลอดภัยขึ้นจริงไหม

แผ่นยางอนามัยสามารถลดความเสี่ยงได้ใกล้เคียงกับถุงยางอนามัย ช่วยปกป้องปากไม่ให้สัมผัสกับอวัยวะเพศหญิง หรือทวารหนักโดยตรง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเชื้อโรคจากการทำออรัลเซ็กส์ได้ เช่น

ใช้ Dental Dam ยังไงให้ปลอดภัยจริงๆ

วิธีใส่แผ่นยางอนามัย

Dental Dam ทำจากถุงยางอนามัยก็ได้นะ

สำหรับใครที่อยากออรัลเซ็กส์ปลอดภัยขึ้น แต่หาซื้อแผ่นยางอนามัยสำเร็จรูปที่วางขายไม่ได้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีวิธีทำแผ่นยางอนามัยจากถุงยางอนามัยมาฝาก แต่ก่อนทำต้องแน่ใจด้วยนะว่า ถุงยางอนามัยของคุณทำมาจากยางพาราหรือโพลียูลีเทน (PU)

หากไม่แน่ใจว่าวิธีที่ทำที่เขียนเป็นหน้าตาอย่างไร สามารถลองดูตัวอย่างในคลิปนี้เป็นตัวอย่างได้ นาทีที่ 19.48 ถึง 20.39

ที่มา www.sanook.com/women/141629

PrEP ยาเพร็พ

กดรับยาเพร็พ PrEP ทันทีได้ที่นี่

ความรู้เบื้องต้น - ยาเพร็พ (PrEP) คืออะไร?

ยาเพร็พ (PrEP) หรือยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ (Pre-Exposure Prophylaxis) เป็นรูปแบบใหม่ของการป้องกันการรับเชื้อเอชไอวีโดยการให้ยาต้านแก่ผู้ที่ไม่มีเชื้อเอชไอวีเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อในกรณีที่มีการสัมผัสเชื้อ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการป้องกันเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ ยาเพร็พมีวิธีการกิน 2 แบบ คือ Daily PrEP (เพร็พกินแบบรายวัน) และ On Demand PrEP (เพร็พกินแบบเมื่อต้องการ) Daily PrEP (เพร็พกินแบบรายวัน) กินทุกวัน วันละเม็ด เวลาเดิม(เวลากำหนดเองได้) แล้วทานต่อเนื่องวันละ 1 เม็ด แต่ต้องกินยาอย่างน้อย 7 วันถึงจะสามารถป้องกันเอชไอวีได้อย่างเต็มที่ On Demand PrEP (เพร็พกินแบบเมื่อต้องการ) สำหรับผู้ที่วางแผนการมีเซ็กส์ได้ หรือว่ามีเซ็กส์ไม่บ่อย มีเป็นช่วงๆ กินเฉพาะช่วงที่จะมีเซ็กส์ โดยกิน 2 เม็ด 2-24 ชั่วโมงก่อนมีเซ็กส์ แล้วกินวันละ 1 เม็ดจนถึงวันที่จะมีเซ็กส์ครั้งสุดท้ายในช่วงนั้น เสร็จแล้วปิดท้ายด้วยการกินวันละ 1 เม็ด อีก 2 วันหลังเซ็กส์ครั้งสุดท้าย

ผมควรกินยาเพร็พไหม?

ยาเพร็พเป็นตัวเลือกในการป้องกันที่อาจไม่ได้เหมาะสำหรับทกคน ส่วนใหญ่ใช้ในกลุ่มผู้ชาย ผู้หญิง และผู้หญิงข้ามเพศที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและสามารถกินยาทุกวันอย่างเคร่งครัด คำถามต่อไปนี้ช่วยประเมิณว่าคุณเหมาะที่จะใช้ยาเพร็พหรือไม่

ถ้ากินยาเพร็พแล้ว ยังต้องใช้ถุงยางไหม?

เราไม่ได้จ้องจับผิดว่าใครใช้หรือไม่ใช้ถุงยาง การตัดสินใจใช้หรือไม่ใช้ถุงยางเมื่อกินยาเพร็พแล้วขึ้นอยู่กับคุณและคู่ของคุณที่ควรร่วมกันตัดสินใจว่า “ต้อง” ใช้ถุงยางอยู่หรือไม่ ถุงยางอนามัยเป็นเครื่องมือป้องกันเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ แต่ในทางปฏิบัติ การใช้ถุงยางทุกครั้งกับทุกคนอาจทำได้ยาก ยาเพร็พจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ที่ในการป้องกันเอชไอวี

แม้ว่ายาเพร็พจะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้แต่ก็ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส ถุงยางอนามัยยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ

ถ้าเริ่มกินยาเพร็พแล้วต้องกินต่อเนื่องไปตลอดชีวิตหรือไม่?

ไม่จำเป็น หลายคนมีวิถีชีวิตทางเพศที่ทำให้เสี่ยงต่อเอชไอวีมากหรือน้อยไม่เท่ากัน การเลือกกินยาเพร็พในช่วง “ขาขึ้น” เช่น เทศกาลสงกรานต์ สามารถทำได้ ส่วนในช่วงอื่นๆที่ความเสี่ยงน้อยลงอาจเลือกใช้การป้องกันด้วยวิธีอื่น เป็นต้น เช่น หากคุณเริ่มกินยาเพร็พเพราะคุณเปลี่ยนคู่นอนบ่อยโดยที่ไม่รู้สถานะเอชไอวีของคู่นอน ต่อมาคุณเจอคนที่ใช่และตัดสินใจเริ่มความสัมพันธ์กับแฟนที่มีผลเลือดเป็นลบเช่นเดียวกับคุณ เมื่อความเสี่ยงลดลง ก็สามารถหยุดยาเพร็พได้

ยาเพร็พป้องกันเอชไอวีได้อย่างไร?

เมื่อเรากินยาเพร็พเข้าไป ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการออกฤทธิ์ป้องกันในร่างกาย ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าระยะเวลาตั้งแต่เริ่มกินยาเพร็พจนกระทั่งออกฤทธิ์ป้องกันควรเป็นเท่าใด ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา โดยทั่วไปในกลุ่มเกย์/ชายรักชาย ยาเพร็พจะออกฤทธิ์ป้องกันบริเวณเนื้อเยื่อในช่องทวารหนักหลังจากที่กินยาครบและต่อเนื่องประมาณ 7 วัน

ถ้าลืมกินยาเพร็พต้องทำอย่างไร?

“การท้าทายของกินยาเพร็พคือต้องกินให้ครบและกินทุกวัน แต่เมื่อเรากินเป็นประจำไปสักช่วงหนึ่ง การกินยาเพร็พจะกลายเป็นเรื่องง่าย หากลืมกินยา 1 เม็ดในช่วงเวลาที่กำหนด ให้กินยาเม็ดนั้นทันทีที่นึกได้และกินในวันเดีวกัน หากคุณเลือกกินยาเพร็พตอนกลางคืนแล้วลืม สามารถนำยามากินพร้อมมื้อเช้าได้ อย่างไรก็ตาม ยาเพร็พต้องกินให้ครบและกินตรงเวลาทุกวัน ไม่ควรลืมกินยา/กินยาเกินเวลาที่กำหนด

การตั้งเวลากินยาเพร็พมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่กิน เช่น หากเลือกกินยาตอนเช้าหรือตอนเย็น อาจวางยาเพร็พไว้ใกล้ๆกับแปรงสีฟันที่เราต้องใช้เป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น การตั้งเตือนเวลากินยาในโทรศัพท์มือถือก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเช่นกัน

ระลึกไว้เสมอว่าหากกินยาไม่ตรงเวลา ยาก็ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ ช่วงเริ่มกินยาอาจต้องใช้หลายวิถีช่วยเตือนให้กินยาตรงเวลาและเมื่อกินประจำจนเป็นกิจวัตร การกินยาให้ตรงเวลาจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น หากคุณมีปัญหาในการกินยาให้ตรงเวลา ควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือคนที่เคยกินยาเพร็พเพื่อขอคำแนะนำ”

หลังจากเริ่มกินยาเพร็พแล้ว ควรตรวจเอชไอวีบ่อยแค่ไหน?

หากต้องการเริ่มกินยาเพร็พ คุณต้องเข้ารับการตรวจเอชไอวีและมีผลเลือดเป็นลบเท่านั้น หากคุณเริ่มกินยาเพร็พเมื่อมีเชื้อเอชไอวีในร่างกายแล้วจะทำให้ไวรัสดื้อยาและอาจส่งผลให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสยุ่งยากขึ้น

ในช่วงที่กินยาเพร็พอยู่ คุณควรตรวจเอชไอวีทุกๆ 3 เดือน เพื่อดูว่ายาเพร็พเป็นวิธีการป้องกันเอชไอวีที่เหมาะกับคุณหรือไม่

ยาเพร็พมีผลข้างเคียงหรือไม่? มีผลกระทบต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน?

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในระยะ 2-3 สัปดาห์หลังจากเริ่มกินยาเพร็พ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อยล้า เวียนหัว ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่พบได้ทั่วไปในผู้ที่เริ่มกินยาเพร็พ (start-up syndrome) และจะค่อยๆหายไปเอง

มีรายงานว่าอาสาสมัครหลายคนที่ร่วมการทดลองกินยาเพร็พมีความดันเลือดสูงขึ้นและอาจส่งผลต่อการทำงานของไต ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ผู้ที่กินยาเพร็พต่อเนื่องควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจการทำงานของไตอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ พบว่าอาสาสมัครหลายคนในโครงการวิจัยยาเพร็พมีความหนาแน่นมวลกระดูกลดลงภายในเวลา 1 เดือนหลังจากเริ่มกินยาเพร็พ อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงของความหนาแน่นมวลกระดูกเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยไม่ลุกลามในระยะยาวและไม่เพิ่มความเสี่ยงจากกระดูกร้าว

การใช้สารเสพติดจะมีผลต่อประสิทธิภาพของยาเพร็พอย่างไร?

ไม่พบความแตกต่างของประสิทธิภาพของยาเพร็พในคนกินยาเพร็พที่ใช้สารเสพติดเป็นบางโอกาสกับคนที่ไม่ใช้สารเสพติดเลย อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยประวัติการใช้สารเสพติดแก่แพทย์ก่อนเริ่มใช้ยาเพร็พ และเมื่อรับยาเพร็พต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น

สิ่งที่คุณควรตระหนักอยู่เสมอคือ ยาเพร็พจะมีประสิทธิภาพน้อยลงหรือไม่มีประสิทธิภาพเลยหากคุณไม่รับประทานยาติดต่อกันทุกวัน ในกลุ่มคนที่ใช้สารเสพติดหรือเข้าร่วมไฮ-ฟันเป็นเวลานาน มักพบว่าไม่สามารถกินยาทุกวันอย่างเคร่งครัดได้

ผมรับยาเพร็พในต่างประเทศหรือทางออนไลน์ได้หรือไม่?

หาข้อมูลเรื่องการเข้าถึงยาเพร็พในประเทศที่คุณอยู่หรือทางออนไลน์ได้ที่ PrEP MAP ซึ่งจัดทำโดยมูลนิธิ APCOM

ในประเทศไทย สามารถรับยาเพร็พได้ที่ไหนบ้าง?

คนไทยและชาวต่างชาติสามารถรับยาเพร็พได้ที่คลินิกสุขภาพเกย์/ชายรักชายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยผู้รับบริการเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเองในราคาไม่แพงและบ้างคลินิกสำหรับคนไทยไม่ต้องเสียค่าตรวจเลือดหรือรับเพร็พฟรีในบางคลินิกได้ ที่นี่ หรือหากอยากตรวจสอบสถานที่คลินิก คลิ๊กที่นี่ เพื่อค้นหาคลินิกยาเพร็พใกล้บ้านคุณ

ยาเพร็พที่มีในประเทศไทยราคาประมาณเท่าไหร่?

คลินิกที่ร่วมกับ testBKK ทุกแห่งให้บริการยาเพร็พในหลายทางเลือก คุณสามารถรับยาเพร็พฟรีได้เพียงเข้าร่วมโครงการกับทางคลินิกต่างๆ ที่นี่ หรือซื้อยาเพร็พในราคาเริ่มต้น 360 – 900 บาทต่อเดือน ค่าใช่จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเริ่มกินยาเพร็พ ได้แก่ ค่าบริการตรวจเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และค่าบริการตรวจการทำงานของไต

PEP ยาเป็ป

หากคุณเพิ่งมีความเสี่ยงมาและคิดว่าอาจได้รับเชื้อเอชไอวี รีบกินยาเป๊ปเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ- เสี่ยงปุ๊บ กินยาเป๊ป!

สิ่งที่คุณควรตระหนักอยู่เสมอคือ ยาเป็บจะมีประสิทธิภาพน้อยลงหรือไม่มีประสิทธิภาพเลยหากคุณไม่รับประทานยาติดต่อกันทุกวัน ในกลุ่มคนที่ใช้สารเสพติดหรือเข้าร่วมไฮ-ฟันเป็นเวลานาน มักพบว่าไม่สามารถกินยาทุกวันอย่างเคร่งครัดได้

ยาเป๊ปคืออะไร?

ยาเป๊บ (PEP) หรือยาป้องกันหลังการสัมผัสเชื้อ (Post Exposure Prophylaxis) เป็นยาต้านไวรัสที่ช่วยลดโอกาสในการสร้างไวรัสเอชไอวีในร่างกายหลังจากสัมผัสเชื้อ

ผู้ที่เพิ่งมีความเสี่ยงหรือคิดว่าอาจได้รับเชื้อเอชไอวีจะต้องเริ่มรับประทานยาเป๊บให้เร็วที่สุด ภายใน 72 ชั่วโมงหลังการสัมผัสเชื้อ ยิ่งเริ่มใช้ยาเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการป้องกันการติดเชื้อก็มีมากขึ้นเท่านั้น และจะต้องกินวันละครั้งติดต่อกัน 4 สัปดาห์ หากกินยาถูกวิธี ยาจะมีประสิทธิภาพมาก แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะป้องกันการติดเชื้อได้ 100%

ยาเพร็พ (PrEP) กับยาเป๊ป (PEP) ต่างกันอย่างไร?

ยาเพร็พและยาเป๊บเป็นยาคนละชนิดกัน ยาเป๊บคือยาป้องกันการติดเชื้อที่ต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อเอชไอวี และจะต้องกินติดต่อกันนาน 28 วัน

ส่วนยาเพร็พเป็นยาป้องกันสำหรับผู้มีผลเลือดลบที่ต้องกินวันละเม็ดทุกวันก่อนสัมผัสเชื้อเอชไอวีเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และยาจะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันเชื้อเอชไอวีเมื่อกินอย่างน้อย 7 วัน

ยาเป๊ปได้ผล 100% ในการป้องกันเชื้อเอชไอวีหรือเปล่า?

ยาเป๊บเป็นยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ดังนั้นคุณจึงยังต้องใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่กินยาเป๊บด้วย เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อเอชไอวี รวมทั้งลดโอกาสแพร่เชื้อเอชไอวีให้คนอื่นหากคุณติดเชื้อระหว่างกินยาเป๊บ

ทำอย่างไรเมื่อกินยาเป๊ปไม่ครบโดส?

กินยาช้าก็ดีกว่าไม่กินเลย แต่ถ้าคุณลืมกินยาเป๊บหรือกินยาไม่ครบโดส ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาครั้งต่อไปด้วยตัวเอง

ยาเป๊ปมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง?

ยาเป๊บเป็นยาที่ปลอดภัยแต่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก บางรายอาจมีอาการท้องเสีย ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน และอิดโรย อาการเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายและสามารถรักษาได้

ใช้ยาเป๊ปทุกครั้งที่มีเซ็กซ์โดยไม่ใช้ถุงยางได้ไหม?

ควรใช้ยาเป๊บแค่ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ยาเป๊บไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อเอชไอวีเป็นประจำ เช่น ไม่ได้กินยาเพร็พและมักมีเซ็กส์แบบไม่ใส่ถุงยางกับคู่นอนที่มีผลเลือดบวก หรือกับคนที่คุณไม่รู้สถานะเลือด ถ้าคุณมีพฤติกรรมดังกล่าว ควรพิจารณาการใช้ถุงยางอนามัยเสมอ และ/หรือกินยาเพร็พ (ยาต้านไวรัสก่อนสัมผัสเชื้อ) จะดีกว่า ยาเพร็พ เป็นยาต้านเชื้อเอชไอวีที่ต้องกินเป็นประจำทุกวันเพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ ศึกษาข้อมูลและสถานที่ที่ขอรับยาเพร็พได้ ที่นี่

ยาเป๊ปราคาเท่าไหร่?

ราคาของยาเป๊บสำหรับรับประทานต่อเนื่องอย่างน้อย 28 วันอยู่ที่ประมาณ 300 – 1,500 บาทต่อคอร์ส ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่ซื้อและยี่ห้อของยา หลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่ครอบคลุมยาเป๊บ แต่บางที่สามารถรับฟรีได้แล้ว

ใครกินยาเป๊ปได้บ้าง?

ถ้าคุณไม่ใช่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือไม่รู้สถานะเลือดของตัวเอง และภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมงที่ผ่านมาคุณ:

คุณควรรีบติดต่อคลินิกที่ร่วมกับtestBKK หรือห้องฉุกเฉินในสถานพยาบาลเพื่อขอรับยาเป๊บทันที ยาเป๊บใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นและต้องเริ่มกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีความเสี่ยงหรือคิดว่าได้รับเชื้อเอชไอวี

ใช้ยาเป๊ปแทนวิธีป้องกันเชื้อเอชไอวีแบบอื่นได้ไหม?

ยาเป๊บไม่สามารถใช้แทนการป้องกันเชื้อเอชไอวีรูปแบบอื่น ๆ เช่น

กินยาเป๊ปเมื่อไหร่?

ยาเป๊บต้องเริ่มรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังสัมผัสเชื้อ ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ ยิ่งได้ผลเท่านั้น

การเริ่มกินยาให้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อเอชไอวีเป็นเรื่องสำคัญ ผลการวิจัยระบุว่า ยาเป๊บจะมีประสิทธิภาพน้อย หรือไม่ได้ผลเลยในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหากกินช้ากว่า 72 ชั่วโมงหลังการสัมผัสเชื้อ

ในการกินยาเป๊บ จะต้องกินวันละเม็ดทุกวันติดต่อกัน 4 สัปดาห์

การใช้สารเสพติดจะมีผลต่อประสิทธิภาพของยาเป๊บอย่างไร?

ไม่พบความแตกต่างของประสิทธิภาพของยาเป็บในคนกินยาเป็บที่ใช้สารเสพติดเป็นบางโอกาสกับคนที่ไม่ใช้สารเสพติดเลย อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยประวัติการใช้สารเสพติดแก่แพทย์ก่อนรับยาเป็บ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น

ขอรับยาเป๊ปได้ที่ไหนบ้างในประเทศไทย?

คุณสามารถติดต่อขอรับยาเป๊ปจาก คลินิคที่ร่วมกับ testBKK หรือแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลต่าง ๆ คุณควรติดต่อไปทันทีหากคิดว่าตัวเองเพิ่งสัมผัสเชื้อเอชไอวี แพทย์จะประเมินความเสี่ยงก่อนเริ่มการรักษา ดังนั้น คุณต้องตอบคำถามและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จะไม่มีใครตัดสินคุณ แต่แพทย์จะช่วยและทำให้คุณสบายใจที่สุด

MENU

SOCIAL MEDIA