การระบาดของเชื้อไวรัสที่เรียกว่าฝีดาษลิงที่กำลังได้รับการรายงานในหลายๆประเทศที่ไม่เคยมีกรณีการติดเชื้อนี้เกิดขึ้น ผู้ซึ่งสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อนั้นมีความเสี่ยง มีการรายงานในกรณีของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) ซึ่งมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หรือกับคู่ของตน แต่ความเสี่ยงก็ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มนี้
การระบาดในครั้งนี้เป็นที่น่ากังวล สำหรับผู้ที่ยังไม่มีข้อมูลความรู้ที่มากพอ ไม่ว่าจะเป็น คู่ของคุณ ครอบครัว หรือชุมชน การได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันทั้งตัวของคุณเองและคนรอบตัว
รู้ความเสี่ยงเพื่อลดความเสี่ยง (Know your risk to lower your risk)
อาการ
หากคุณเป็นผู้สัมผัสเชื้อฝีดาษลิง อาการของโรคสามารถแสดงออกมาได้ใน 21 วัน ผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นฝีดาษลิงจะมีผื่นขึ้น อาจมีลักษณะเหมือนสิวหรือตุ่มพอง มีอาการเจ็บปวดและคัน สามารถพบได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่มักจะพบที่บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก ใบหน้า ฝ่ามือ เท้า นอกจากนี้ยังพบได้ใน ปาก ลำคอ อีกด้วย ลักษณะของแผลอาจจะเป็นแค่ตุ่มเล็ก ๆ หรืออาจจะเป็นกลุ่มของตุ่มผื่นจำนวนมากก็ได้ ผื่นจะการลุกลามจนกว่าจะเริ่มตกสะเก็ด และหลุดออกมา โดยมีชั้นผิวหนังใหม่ก่อตัวขึ้น อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งควรทำการแยกตัวออกห่างจากผู้อื่นในระยะนี้
อาการอื่น ๆ อาจรวมถึง
- ไข้
- ต่อมน้ำเหลืองบวมโต
- ปวดหัว
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
ผู้ป่วยอาจจะพบอาการเหล่านี้ได้ทั้งหมดหรือบางอาการ ในผู้ป่วยบางรายมีอาการไม่หนัก แต่ในบางรายมีการหนักและต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ซึ่งมีอาการของฝีดาษลิงหรือสัมผัสกับผู้ที่มีอาการของฝีดาษลิงควรแจ้งและขอคำแนะนำจากสถานพยาบาลโดยทันที

การแพร่การติดต่อ
ฝีดาษลิงแพร่ได้ผ่านการสัมผัสใกล้ชิด (หน้าต่อหน้า, ผิวต่อผิว, ปากต่อปาก, หรือ ปากต่อผิว) กับผู้ที่มีเชื่อของฝีดาษลิง รวมทั้งการจูบหรือมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อจะสิ้นสุดต่อเมื่อแผลได้เกิดการตกสะเก็ด หลุดออก และมีชั้นผิวใหม่เกิดขึ้น
ไวรัสสามารถแพร่กระจายจากสิ่งรอบตัวสู่มนุษย์ได้ เช่น เมื่อผู้มีเชื้อฝีดาษลิงใช้สิ่งของเครื่องใช้ ผู้ที่มาสัมผัสต่อสิ่งเหล่านี้ สามารถติดเชื้อได้ และนอกจากนั้นยังสามารถติดเชื้อจากการหายใจเอาสะเก็ดผิวหนัง หรือไวรัสจากเสื้อผ้า เครื่องนอน หรือผ้าขนหนูได้เช่นกัน

ตุ่มหนอง ผื่น หรือ แผลในปากก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน ซึ่งหมายความว่าไวรัสกระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับปาก ละอองจากการหายใจและผ่านจากละอองในระยะประชิดได้

หากคุณได้รับเชื้อฝีดาษลิงหรือสงสัยในอาการ
- ขอคำแนะนำจากสถานพยาบาลและเข้ารับการตรวจ
- กักตัวและเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น (รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์)
- ดูแลอาการและสุขภาพร่างกายรวมทั้งจิตใจเมื่อคุณทำการกักตัวเอง



คุณมีส่วนช่วยในการหยุดการระบาดได้นะ
- เรียนรู้ว่าฝีดาษลิงส่งผลอย่างไรกับชุมชน
- แบ่งปันและการจายข้อมูลที่ถูกต้องจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- ไม่ตื่นตระหนก ดูแลสุขภาพจิตและสื่อสารอย่างเปิดเผยกับผู้อื่น

การติดเชื้อฝีดาษลิงไม่ใช่เรื่องน่าละอายหรือผิด
ทุกคนสามารถป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงได้ การตีตรา ว่ากล่าว หรือ ติเตียน จะทำให้การยุติการระบาดยากขึ้น เพราะทำให้ผู้คนไม่อยากเข้าถึงการรักษา อย่าให้ความกลัวหยุดการเข้าถึงการรักษาจากสถานพยาบาลหรือชุมชน เมื่อคุณมีอาการของ ฝีดาษลิง
คำถามที่พบบ่อย
ควรทำอย่างไรเมื่อคิดว่าเป็นฝีดาษลิง
หากคุณมีอาการหรือเคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อขอคำแนะนำ การตรวจรักษา แยกตัว เมื่อทำได้ ขณะรอผลตรวจและหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ หากคุณคิดว่าอาการที่มีอาจเป็นโรคฝีดาษลิงหรือหากคุณเคยสัมผัสเชื้อฝีดาษลิง
ควรทำอย่างไรเมื่อผลตรวจพบว่าเป็นฝีดาษลิงเป็นบวก
หากคุณตรวจพบเชื้อฝีดาษลิงเป็นบวก คุณจะต้องแยกตัวออกจากผู้อื่นจนกว่าผื่นจะลอกออก และแห้งเป็นสะเก็ดหลุดออก และเกิดชั้นผิวใหม่ ก็จะช่วยป้องกันผู้อื่นไม่ให้ติดเชื้อ
ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองและควรพักฟื้นที่บ้านหรือในโรงพยาบาล ดื่มน้ำให้มากๆ กินอาหารที่ดีและนอนหลับให้เพียงพอ ใช้ยารักษาอาการปวดและมีไข้หากจำเป็น ดูแลผื่น หลีกเลี่ยงการเกา รักษาแผลให้แห้งและเปิดให้อากาศถ่ายเท ทำความสะอาดบริเวณผื่นให้สะอาดด้วยน้ำที่ปราศจากเชื้อ/น้ำยาฆ่าเชื้อ หากมีแผลในปากให้ล้างแผลในปากด้วยน้ำเกลือและอาบน้ำอุ่นด้วยเบกกิ้งโซดา/เกลือเอปซอม (Epsom)หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันทีเพื่อขอคำแนะนำ
หากคุณมีการติดต่อใกล้ชิด (รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์) ในช่วง 21 วันที่ผ่านมา ให้แจ้งอาการป่วยของคุณเพื่อให้พวกเขาได้ทราบ หรือหากคุณไม่สะดวกใจที่ติดต่อเองให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อให้ส่งต่อข้อมูลแทนคุณ
ฝีดาษลิงเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์อย่างไร?
โรคฝีดาษลิงสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสใกล้ชิดทุกรูปแบบ การจูบ การสัมผัส การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักกับผู้ที่ติดเชื้อ ผู้ที่มีผื่นและมีความผิดปกติควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะได้รับการตรวจหาโรคติดต่อ
ทางเพศสัมพันธ์ (STIs) และโรคฝีดาษลิง ต้องคิดเสมอไว้ว่าผื่นยังสามารถพบได้ในสถานที่ที่มองเห็นได้ยาก เช่น ปาก ลำคอ อวัยวะเพศ ช่องคลอด และบริเวณทวารหนัก หรือในทวารหนัก
ไวรัสฝีดาษลิงถูกพบในของเหลวในร่างกายเช่นน้ำอสุจิ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคฝีดาษสามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำอสุจิหรือของเหลว
ในช่องคลอดได้ ผู้ที่หายจากโรคฝีดาษลิงแล้ว ควรใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบเป็นเวลา 12 สัปดาห์หลังหายจากโรคฝีดาษลิง แต่การสวมถุงยางอนามัยไม่ได้ป้องกันคุณจากการติดเชื้อฝีดาษลิงในขณะที่คุณแสดงอาการ แต่จะช่วยปกป้องคุณและผู้อื่น จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ
หากเป็นไปได้ ให้แลกเปลี่ยนข้อมูลการสัมผัสกับคู่ของคุณ แม้ไม่ได้วางแผนจะเจออีก คุณจะได้รับการแจ้งเตือนหากคู่ของคุณมีอาการฝีดาษลิง หรือคุณสามารถแจ้งเตือนพวกเขาก็ได้หากคุณมีอาการเกิดขึ้นกับคุณ การลดจำนวนคู่นอนก็อาจช่วยลดความเสี่ยงของคุณได้
เราช่วยเหลือผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงอย่างไรได้บ้าง?
การมีเชื้อฝีดาษลิงอาจเป็นเรื่องที่น่าวิตกสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบและคนรอบข้าง หากมีคนเปิดเผยกับคุณว่าเขาเป็นโรคฝีดาษลิง ให้พูดคุยโดยไม่ตัดสินหรือตั้งสมมติฐานว่าติดเชื้อได้อย่างไร เคารพความต้องการว่าพวกเขาต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องความเจ็บป่วยหรือไม่
ทำทุกอย่างที่สามารถช่วยได้เพื่อช่วยคนที่กักตัว รวมถึงการช่วยซื้อของและเช็คสถานการณ์กันเป็นประจำ บางรายอาจประสบปัญหาทางการเงินเพราะไม่สามารถทำงานได้ในช่วงที่กักตัว อาจช่วยเหลือสนับสนุนในแบบที่คุณทำได้ในชุมชนของคุณในกรณีนี้
ให้โอกาสผู้คนพูดคุยเกี่ยวกับความกังวลและความรู้สึกของพวกเขาก็สามารถช่วยได้เช่นกัน ส่งเสริมให้ดูแลสภาพจิตใจ ทานอาหารที่ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายด้วยหากเป็นไปได้ ผู้คนจำนวนมากกำลังแบ่งปันประสบการณ์ออนไลน์เพื่อช่วยลดการตีตราและความรู้สึกรู้สึกผิดที่อาจเกิดขึ้น
จะป้องกันคนอื่นอย่างไร หากตัวเราติดฝีดาษลิง
หากคุณมีเชื้อฝีดาษลิง ให้กักตัวเองจนกว่าคุณจะไม่ติดเชื้ออีกต่อไป ผู้ให้บริการทางด้านสาธารณะสุขจะช่วยตัดสินใจว่าคุณควรได้รับการดูแลในโรงพยาบาลหรือที่
บ้าน ซึ่งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ไม่ว่าคุณจะมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้คุณเสี่ยงจะมีอาการรุนแรงขึ้น และคุณสามารถลดความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อให้กับคนที่อาศัยอยู่ร่วมกับคุณได้
หากคุณต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ให้ปกป้องคนอื่นที่อาศัยร่วมกับคุณด้วยการ:
• กักตัวในห้องที่แยกออก
• ใช้ห้องน้ำแยกต่างหาก หรือทำความสะอาดหลังการใช้งานทุกครั้ง
• ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อยครั้งด้วยน้ำสบู่และน้ำยาฆ่าเชื้อในครัวเรือน และหลีกเลี่ยงการกวาด/ดูดฝุ่น
• แยกภาชนะ ผ้าขนหนู สิ่งของ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องนอน
• ใส่เสื้อผ้าในถุงพลาสติกก่อนขนย้ายเพื่อนำเข้าเครื่องซักผ้า
• เปิดหน้าต่างในบริเวณบ้านเพื่อให้พื้นที่ระบายอากาศได้ดี
หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงโดยการอยู่กักตัวในห้องเดียวได้ ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัส ล้างมือบ่อยๆ ใช้เสื้อผ้าหรือผ้าพันแผลปิดบรืเวณผื่น สวมหน้ากากอนามัย และเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
ทำไมเราถึงพบการแพร่ของฝีดาษลิงในกลุ่ม LGBT หรือในกลุ่ม MSM
ความเสี่ยงของโรคฝีดาษลิงนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายเท่านั้น ผู้ที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อนั้นมีความเสี่ยง แม้จะมีข้อมูลว่าการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย มีส่วนในการแพร่เชื้อฝีดาษในช่วงเวลาที่ผ่านมา ชายบางคนที่มีเพศสัมพันธ์กับชายเชื่อมโยงกับเครือข่ายทางเพศที่ขยายยังเมืองและประเทศต่างๆ ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าเหตุใดเราจึงเห็นกรณีต่างๆ ในกลุ่มนี้ ในขณะที่ไวรัสยังคงแพร่ระบาดในกลุ่มนี้ ผู้เชี่ยวชาญและผู้สนับสนุนได้สนับสนุนให้ กลุ่ม LGBT และ MSM ตื่นตัวต่ออาการและดูแลป้องกันตนเองและผู้อื่น
กลุ่ม LGBT หรือ MSM สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพทางเพศ ซึ่งเห็นในการระบาดในรอบนี้ เนื่องจากมีกรณีที่ผู้ชายที่จะเข้ารับการทดสอบในคลินิกสุขภาพทางเพศ
ชายที่เข้าถึงยาต้านไวรัสเพื่อรักษาหรือป้องกันการติดเชื้อเอชไอวียังได้รับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำการรับการบริการสุขภาพเป็นประจำช่วยให้สามารถพบโรคฝีดาษลิงในกลุ่มและเป็นโอกาสในการส่งวัคซีนและเข้าถึงผู้ที่ต้องการ
หากเป็นผู้อยู่ร่วมกับ HIV จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นหรือไม่
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยที่รุนแรงกว่าจากโรคฝีดาษลิง ผู้อยู่ร่วมกับเอชไอวีที่ทราบสถานะของตนเองและเข้าถึงและใช้การรักษาอย่างถูกต้องสามารถยับยั้งไวรัสได้ หมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาอ่อนแอต่อการติดเชื้ออื่น ๆ น้อยกว่าที่กลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษา การศึกษากำลังดำเนินการเพื่อทำความเข้าใจคำถามเหล่านี้ชัดขึ้น ปัจจุบันนี้ผู้ที่อยู่ร่วมกับเอชไอวีที่เป็นโรคฝีดาษลิงในการระบาดครั้งนี้ไม่ได้มีผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่แย่กว่ากลุ่มอื่น ๆ
หากต้องการรู้เรื่องอื่นๆที่ควรรู้เกี่ยวกับฝีดาษลิง
สามารถอ่านคำตอบของคำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับโรคฝีฝีดาษได้ ที่นี่ หรืออ่านเอกสารข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ตรวจสอบแหล่งข้อมูลทางการและชุมชนในพื้นที่ของคุณเพื่อดูข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์ที่
อยู่ใกล้คุณ องค์กรที่สนับสนุนเกย์ ไบเซ็กชวล และชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย รวมถึงองค์กรสนับสนุนเอชไอวีทั่วโลก มีความเป็นผู้นำในการให้ข้อมูลและสนับสนุนชุมชนของตนเพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของ
โรคฝีดาษลิง ข้อมูลยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กร LGBTQIA+ ในวงกว้างมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความพยายามในการจัดการปัญหาตีตราและการเลือกปฏิบัติ รวมถึงการแบ่งปันข้อมูล
หากคุณกำลังมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน ให้ตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างเป็นประจำ และปรึกษากับผู้ให้บริการสาธารณะสุขของคุณเพิ่มเติมในเรื่องการรับ PrEP
การเข้ารับบริการด้านสุขภาพอย่างเป็นประจำและทันท่วงที เมื่อคุณมีอาการจะช่วยให้เข้ารับการรักษาได้ทันและหลีกเลี่ยงการติดต่อไปยังผู้อื่น
ที่มา: “Public Health Advice for Gay, Bisexual and Other Men Who Have Sex with Men on the Recent Outbreak of Monkeypox.” Public Health Advice for Gay, Bisexual and Other Men Who Have Sex with Men on the Recent Outbreak of Monkeypox, 18 July 2022
www.who.int/publications/m/item/monkeypox-public-health-advice-for-men-who-have-sex-with-men
เขียนโดย: Siripong SriChau
Im very happy to uncover this site. I wanted to thank you for ones time for this particularly wonderful read!! I definitely appreciated every bit of it and i also have you book marked to see new information in your site.