โคเคนจัดอยู่ในสารออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทอย่างรุนแรง ออกฤทธิ์เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลระหว่างสมองกับร่างกายทำให้ผู้เสพรู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุข โคเคนเป็นสารที่สกัดได้จากใบของต้นโคคา (Erythroxylum coca) แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
โคเคน ไฮโดรคลอไรด์ : เป็นผงสีขาว รสขม เสพร่วมกับสารที่ซื้อขายตามร้านขายยาทั่วไป เช่น น้ำตาลแลคโตส หรือกลูโคส เพื่อลดความแรงของโคเคน
โคเคน ฟรีเบส: เป็นผลึกแข็งสีขาว หรือไล่สีไปจนสีน้ำตาลคล้ายหิน เรียกกันว่า แคร็ก (Crack) หรือ ร็อค (Rock) สีที่แตกต่างกัน เช่น สีใส ขาว ชมพู หรือเหลือง เป็นผลจากสารที่ใช้ผสมในขั้นตอนการผลิตที่แตกต่างกัน
การยินยอมพร้อมใจทางเพศ คือ การที่เราสามารถตกลงใจเข้าร่วมกิจกรรมทางเพศได้อย่างมีอิสระ การยินยอมนี้จะต้องมีการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่ายให้ชัดเจนก่อนเริ่มกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมีเซ็กซ์ และต้องสามารถเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ฤทธิ์ของสารเสพติดอาจทำให้ความสามารถในการพิจารณาและตัดสินใจของคุณบกพร่องได้ ดังนั้น ก่อนที่จะให้ใครเข้ามาร่วมไฮที่ห้องของคุณ หรือก่อนที่คุณจะไปร่วมไฮที่ห้องของคนอื่น ทุกคนที่เข้าร่วมควรกำหนดขอบเขตของกิจกรรมทางเพศ โดยเฉพาะเรื่องที่ทำได้หรือทำไม่ได้ระหว่างมีเซ็กส์
จำไว้ว่า เซ็กส์ที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม คือ การข่มขืน และการข่มขืนและการล่วงละเมิดทางเพศเป็นอาชญากรรม
หากไม่รู้จะบอกฝ่ายตรงข้ามอย่างไร เปิดเพลงนี้ของ Milli ให้ฟังก่อนไฮได้
ถ้าคุณเป็นคนจัดไฮ-ฟัน คุณต้องรับผิดชอบในการเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกบังคับให้มาเข้าร่วมไฮโดยไม่ยินยอมพร้อมใจ
โคเคนมักเสพโดยวิธีสูดผงยาเข้าโพรงจมูก (ตบแป้ง) แต่ก็สามารถเสพโดยวิธีฉีด ถูลงบนเหงือก หรือผสมลงในอาหารและน้ำดื่มด้วย
โคเคนฟรีเบสหรือแคร็กมักเสพโดยการสูบควัน
การใช้ยาหรือสารใดๆ ไม่มีระดับที่ ปลอดภัย การใช้สารทุกชนิดมีความเสี่ยง จึงต้องระมัดระวังเมื่อใช้เสมอ โดยเฉพาะยาที่ผิดกฎหมาย จะออกฤทธิ์แทบจะทันทีหากเสพโดยวิธีฉีด ถ้าใช้สูบ สูดดม หรือกลืน ก็จะออกฤทธิ์ช้าลง การออกฤทธิ์ของโคเคนในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
– น้ำหนักตัวของผู้ใช้
– สุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ใช้
– ความถี่ของการใช้
– การใช้ร่วมกับยาหรือสารตัวอื่น เช่น ยาที่แพทย์สั่งจ่าย
– ปริมาณที่ใช้
– ความบริสุทธิ์ของยา (ซึ่งยาผิดกฎหมายมักไม่มีมาตรฐาน)
ผลระยะสั้นของผู้เสพโคเคน ได้แก่
– มั่นใจตัวเอง กระตือรือร้นมากขึ้น
– อารมณ์เคลิบเคลิ้มเป็นสุข
– การยับยั้งชั่งใจน้อยลง
– รูม่านตาขยาย
– ปากซีด แห้ง
– หัวใจเต้นเร็ว
– ความอยากอาหารน้อยลง
– เหงื่อออกมาก
– มีอารมณ์ทางเพศสูง
ถ้าเสพโดยวิธีสูดเข้าทางจมูก อาจทำให้เลือดกำเดาไหล เยื่อบุโพรงจมูกติดเชื้อ ผนังกั้นช่องจมูกทะลุ และทำให้โพรงจมูกเสียหายในระยะยาวได้
การเสพโคเคนปริมาณมากเป็นประจำอาจทำให้เกิดอาการทางจิต ผู้ใช้อาจเห็นภาพลวงตา หวาดระแวง ประสาทหลอน ก้าวร้าว คลุ้มคลั่ง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปหลังเลิกเสพโคเคนสักระยะ
ช่วงที่โคเคนเริ่มหมดฤทธิ์คุณจะรู้สึกค่อนข้างแย่ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าชีวิตถึงจุดจบแล้ว จิตใจคุณแค่อยู่ในช่วง “ขาลง” และความรู้สึกแย่ต่างๆ ก็จะค่อยๆ หายไปตามเวลา
เมื่ออยู่ในช่วงโคเคนเริ่มหมดฤทธิ์ คุณอาจมีอาการ
– รู้สึกกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย กระวนกระวาย
– หวาดระแวง
– ซึมเศร้า
– อารมณ์แปรปรวน เหวี่ยง เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย
– เฉื่อยชา
– เหนื่อยล้า
– นอนหลับมากขึ้น
– ฉุนเฉียว โกรธง่าย
ร่างกายของคุณก็เจอศึกหนักเหมือนกัน ดังนั้นคุณก็ควรดูแลตัวเองบ้าง เรามีข้อแนะนำมาฝาก
– กินอาหารให้อิ่มก่อนจะใช้ยาช่วยได้ และกินรองท้องเรื่อยๆ ด้วย
– เช็คให้แน่ใจว่าตุนอาหารสำรองไว้ในตู้เย็นสำหรับตอนปาร์ตี้หรือตอนที่ยาเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว อาหารที่ตุนไว้ควรเป็นอาหารอ่อน เช่น โยเกิร์ต สมูตตี้ โปรตีนปั่น หรือซุปสำเร็จรูป เพราะคุณอาจเคี้ยวอาหารได้ยากหลังใช้ยา
– อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ คุณต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเสมอ
– ถ้าคุณกินยาต้านเชื้อเอชไอวีหรืออยู่ในช่วงกินยา PrEP หรือยา PEP อย่าลืมตั้งเวลากินยาในโทรศัพท์เผื่อกันลืม และถ้าต้องออกไปปาร์ตี้นอกบ้านหลายวันก็เช็คให้แน่ใจว่าเอายาไปครบ
– ดูแลตัวเองให้ดี ทำตัวให้สบายและปลอดภัยด้วย ลองแช่น้ำอุ่นๆ ออกไปเที่ยวกับเพื่อน นอนพักผ่อนหรือดูรายการตลกๆ ทางทีวีบ้าง
– ผ่อนคลายด้วยดนตรีสบายๆ เพลย์ลิสต์นี้ก็ฟังสบายดีนะ ลองฟังสิ
– หรือไม่ก็ลองเดินตากฝน ผ่อนคลายตัวเองตามเม็ดฝนเย็นๆ ที่โดนตัว พระเอกเอ็มวีที่สุด
กัญชา + แอลกอฮอล์ เพิ่มโอกาสการคลื่นไส้ อาเจียน และวิตกกังวล
บางครั้งกัญชาถูกนำไปใช้เพื่อลดอาการที่เกิดเมื่อยากลุ่มกระตุ้นประสาท เช่น ไอซ์ ยาบ้า หรือยาอี เริ่มหมดฤทธิ์ (comedown) แต่อาจส่งผลให้แรงจูงใจลด ความสามารถในการจดจำลดลง เกิดปัญหาทางจิต และการเสพติดยาทั้งสองประเภทได้
กัญชา + ยารักษาโรคหัวใจและความดันโลหิต อาจทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
กัญชา + ไวอากร้า เป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างอันตราย สารทั้งสองมีฤทธิ์ทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น
ถ้าคุณอยากปลอดภัยก็ต้องไม่ใช้ยาเลย โอเคไหม? แต่ถ้าพูดกันตามจริง หลายคนก็ใช้ยากันอยู่ บางคนใช้แล้วสนุก แต่อีกหลายคนใช้แล้วมีปัญหาหลายอย่างทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ความสัมพันธ์ หน้าที่ การงาน สภาพการเงิน หรือทั้งหมดที่กล่าวมา ถ้าปล่อยไว้ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้น ถ้าคุณคิดจะใช้ยาหรือสารใดๆ ก็ต้องใช้ให้ปลอดภัย คุณเลือกเองว่าจะนำสารใดเข้าสู่ร่างกาย แต่ไม่ว่าจะเลือกอะไร ก็ต้องแน่ใจว่ามีความปลอดภัย และให้มีผลกระทบต่อตัวเองและผู้อื่นน้อยที่สุด
เราจึงมีข้อแนะนำมาให้คุณ
– กำหนดขอบเขตให้ตัวเอง และยึดตามที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด
– อย่ายอมให้คนอื่นบังคับให้คุณใช้ยา
– หลีกเลี่ยงการผสมหรือใช้ยาร่วมกันหลายชนิด หรือถ้าจะทำจริงๆ ก็ต้องหาข้อมูลความเสี่ยงให้มั่นใจก่อน
– เตือนตัวเองเสมอว่ากำลังใช้ยาอะไรและมากเท่าไหร่แล้ว
– กินอาหารก่อนเริ่มปาร์ตี้ และดื่มน้ำให้เพียงพอเสมอ
– ถ้าจะออกไปสุดเหวี่ยงในค่ำคืนแสนพิเศษ ทิ้งบัตรเอทีเอ็มไว้ที่บ้าน ตั้งลิมิตการใช้เงินของตัวเอง และอย่าลืมเผื่อเงินค่ารถกลับบ้านไว้ด้วย
– บอกเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ก่อนว่าคุณกำลังจะทำอะไร
– อย่าขับขี่รถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์เอง ถ้าคุณคิดว่าคืนนั้นจะไฮแน่ๆ
– ถ้าคุณรู้สึกไฮ แต่ขับรถส่วนตัวมา ให้ทิ้งรถไว้ที่ร้านและกลับบ้านด้วยแท็กซี่ หรือ แกร็บคาร์ แล้วค่อยกลับมาเอารถวันต่อไปเมื่อคุณสร่างเมาแล้ว หรืออาจใช้บริการแอ็ป YouDrinkIDrive ที่จะส่งคนขับมาขับรถส่งคุณกลับบ้านให้
– ตั้งเบอร์เพื่อนสนิทไว้เป็นเบอร์โทรฉุกเฉิน เผื่อไว้ติดต่อให้มารับคุณในวันที่คุณไฮหนักและอยู่คนเดียว ในโทรศัพท์แอปเปิ้ลสามารถตั้งค่าการโทรด่วนไปยังเบอร์โทรฉุกเฉินได้ทันที ถ้าคุณมีโทรศัพท์ไอโฟนก็อย่าลืมใช้ให้คุ้มล่ะ
ถ้าคุุณตัดสินใจเลือกใช้วิธีฉีด ต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้สะอาด ห้ามใช้เข็มหรืออุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคที่ติดต่อผ่านกระแสเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี ซี และเอชไอวี คุณอาจจะมองไม่เห็นเลือดที่ติดอยู่ในเข็มหรือกระบอกฉีดยา แต่จริงๆ มันอาจจะติดอยู่บนผิวหนัง ที่มือ หรือว่าบนโต๊ะก็ได้ ดังนั้นแม้จะไม่เห็นเลือดก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเลือดออก ก่อนฉีดยาจึงต้องล้างมือให้สะอาด ฆ่าเชื้อบริเวณที่จะฉีดเสมอ
การฉีดยาและการใช้อุปกรณ์การฉีดร่วมกับผู้อื่นอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อ
– เส้นเลือดถูกทำลาย และเกิดรอยแผลเป็นถาวร
– การติดไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไวรัสตับอักเสบชนิดซี บาดทะยัก และเอชไอวี
– ลิ่มเลือดอุดตัน ส่งผลให้เกิดอาการอัมพาต อวัยวะเสียหาย เส้นเลือดในสมองอุดตัน และนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ถ้าคุณใช้เข็มซ้ำ ศึกษาวิธีการทำความสะอาดเข็มได้ที่ เลี่ยงไม่ได้ก็ต้องเสี่ยงให้น้อยที่สุด: การทำความสะอาดอุปกรณ์ฉีดยา [www.testbkk.org/clean-injection]
ถ้าคุณใช้โคเคนร่วมกับการมีเซ็กส์ คุณอาจปลดล็อกความต้องการทางเพศของตัวเองจนกล้าทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำตอนที่ไม่ได้ใช้ยา หรือทำสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากทำจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น โอม ในตอนที่มีสติจะเช็คตลอดว่าผู้ชายที่จะเอาเขาต้องใส่ถุงยางตลอด แต่เมื่อใช้ยา โอมกลับยอมให้ใครก็ไม่รู้สอดใส่และปล่อยน้ำข้างในโดยไม่ได้ป้องกัน ทำให้โอมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี
ถ้าคุณมักเข้าร่วมไฮฟันและไม่ได้สวมถุงยางบ่อยๆ คุณควรพิจารณาการกินยาเพร็พ (PrEP) ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ หาข้อมูลเรื่องยาเพร็พได้ที่นี่
โคเคน + แอลกอฮอล์ จะเพิ่มฤทธิ์กระตุ้นประสาทของโคเคน ทำให้หัวใจทำงานหนักมาก จนนำไปสู่การเสียชีวิตทันทีได้
โคเคน + ยากระตุ้นประสาทอื่นๆ (ยาอี ยาบ้า และยาไอซ์) ทำให้หัวใจบีบตัวอย่างหนัก เพิ่มความเสี่ยงของการเสพยาเกินขนาดด้วย
โคเคน + ยาลดความเครียด อาจทำให้เกิดกลุ่มอาการเซโรโทนิน เช่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ชัก หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อกระตุก เป็นต้น ซึ่งจะต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ทันที
ถ้าคุณกินยาเพร็พที่มียาในกลุ่ม PI (Protease Inhibitors) และยาต้าน Efavirenz (EFV), Etravirine (ETV) และ Nevirapine (NVP) ในกลุ่ม NNRTIs ร่วมกับเสพโคเคน อาจทำให้ยาเกิดปฏิกิรยาต่อกันและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้ ได้ นอกจากนี้ ถ้าคุณกินยาต้านไวรัส Saquinavir (SQV) ในกลุ่ม PI ห้ามใช้โคเคนเด็ดขาด
คุณควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดรวมถึงปรับขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ TestBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆจากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง
ถ้าคุณกินยาเป๊บที่มียาในกลุ่ม PI (Protease Inhibitors) และยาต้าน Efavirenz (EFV), Etravirine (ETV) และ Nevirapine (NVP) ในกลุ่ม NNRTIs ร่วมกับเสพโคเคน อาจทำให้ยาเกิดปฏิกิรยาต่อกันและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้ ได้ นอกจากนี้ ถ้าคุณกินยาต้านไวรัส Saquinavir ในกลุ่ม PI ห้ามใช้โคเคนเด็ดขาด
คุณควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดรวมถึงปรับขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ TestBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆจากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง
ถ้าคุณมีผลเลือดบวกและกินยาต้านไวรัสกลุ่ม PI (Protease Inhibitors) และยาต้าน Efavirenz (EFV), Etravirine (ETV) และ Nevirapine (NVP) ในกลุ่ม NNRTIs ร่วมกับการใช้โคเคน ยาต้านกลุ่มนี้จะเพิ่มขนาดโคเคนในร่างกาย ทำให้เกิดโอเวอร์โดส และส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ ถ้าคุณกินยาต้านไวรัส Saquinavir (SQV) ในกลุ่ม PI ห้ามใช้โคเคนเด็ดขาด
ถ้าคุณเป็นผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและใช้สารเสพติด ควรปรึกษาและตรวจสุขภาพกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ TestBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆจากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง
ใจเย็นๆ นะพวก! ถ้าการเสพโคเคนของคุณเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัว ความสามารถในการทำงานหรือเรียน หรือกระทั่งเงินในกระเป๋า นี่อาจถึงเวลาที่จะต้องติดต่อคนที่ช่วยคุณได้แล้ว
มีวิธีบำบัดมากมาย และมีหลายองค์กรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่คุณและคนรอบข้าง ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการควบคุม ลด หรือเลิกการใช้ยา ขอแค่คุณเรียกหา ก็จะมีคนช่วยเสมอ
ถ้าคุณกังวลใจเกี่ยวกับการติดยาเสพติดหรือมีปัญหาสุขภาพจิตที่เกี่ยวกับการใช้สารเสพติด อย่าเก็บไว้คนเดียว คุยกับผู้เชี่ยวชาญดีกว่า ไม่ว่าจะโทรเพื่อขอคำปรึกษาด้านจิตใจ ในกรณีที่คุณมีความคิดฆ่าตัวตาย หรือเกิดความเครียด หรือเพียงต้องการหาข้อมูลเบื้องต้นของบริการด้านสุขภาพที่เหมาะกับคุณต่อไป ก็สามารถโทรได้ ฟรี และข้อมูลของคุณจะถูกเก็บเป็นความลับ
ค้นหาสายด่วนให้ข้อมูลและคำปรึกษา
ศูนย์ลดอันตราย หรือศูนย์ดรอป-อินมีบริการที่ช่วยลดภาวะเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาได้ เช่น บริการเข็มฉีดยาสะอาด และถ้าคุณมีเป้าหมายในการลดการใช้ยา ศูนย์ดรอปอินเหล่านี้ก็ช่วยคุณได้ แน่ใจได้เลยว่าคุณจะได้รับบริการในพื้นที่ปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นมิตรและพร้อมสนับสนุนคุณเสมอ
ค้นหาสถานบริการด้านการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด
ถ้าคุณกำลังมองหาบริการบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ มีสถานพยาบาลจำนวนมากที่พร้อมสนับสนุนให้คุณบรรลุเป้าหมายในการลด ละ เลิกใช้ยา โดยมีทั้งบริการแบบผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการ การถอนพิษยา การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการติดตามผล
ค้นหาสถานบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
การตรวจเลือดและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำอย่างน้อยทุกๆ สามเดือนเป็นเรื่องสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ testBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆ จากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง และคุณสามารถจองคิวตรวจเลือดล่วงหน้าซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องรอคิว ได้รับการตรวจที่รวดเร็ว เป็นความลับ และไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
การถอนโคเคนหลังจากเสพมานานเป็นเรื่องยาก ร่างกายที่เสพติดยาจะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะปรับตัวกับการไม่ใช้โคเคนได้ คุณควรขอคำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ อาการถอนยามักเกิดขึ้นใน 1 ถึง 2 วันหลังการเสพครั้งล่าสุด และอาจเป็นอยู่นานเกือบ 10 สัปดาห์ ช่วงวันที่ 4 ถึง 7 จะเป็นช่วงที่อาการรุนแรงที่สุด
อาการถอนยาจากการหยุดเสพโคเคน แบ่งออกเป็น 3 ช่วง
ช่วงที่ 1 ช่วงหมดฤทธิ์ ในช่วงแรกจะมีอาการกระสับกระส่าย ซึมเศร้า วิตกกังวลอย่างรุนแรง รู้สึกหิวโหย อยากยา นอนหลับไม่สนิท และหมดแรง
ช่วงที่ 2 ช่วงถอน มีอาการอยากโคเคน ขาดพลังงาน วิตกกังวล อารมณ์รุนแรง ไม่มีความสุขในการทำสิ่งที่ชอบ ซึ่งอาการเหล่านี้จะคงอยู่จน 10 สัปดาห์หลังการเสพครั้งสุดท้าย
ช่วงที่ 3 ช่วงดับ ช่วงนี้อาจจะยังมีอาการอยากยาอยู่เป็นระยะ
ข้อมูลในเว็บไซต์ TestBKK เป็นเพียงข้อมูลแนะนำทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ถ้าต้องการคำแนะนำเรื่องเฮโรอีน คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ