ยาอี

ยาอี (Ecstasy) เป็นยากระตุ้นประสาทที่ทำให้ผู้เสพมีอาการหลอนประสาทร่วมด้วย ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุข สารออกฤทธิ์ในยาอีเรียกว่า MDMA ซึ่งจะมีปริมาณต่างกันไปทั้งในรูปแบบแคปซูลและเม็ด ตั้งแต่ตรวจสอบได้ง่ายหรือไม่มีเลย ขึ้นอยู่กับล็อตการผลิต 

การผลิตยาอีมักมีการผสมสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น น้ำยาทำความสะอาดพื้น หรือยาฆ่าแมลง เข้าไปด้วย

การยินยอมพร้อมใจทางเพศ คือ การที่เราสามารถตกลงใจเข้าร่วมกิจกรรมทางเพศได้อย่างมีอิสระ การยินยอมนี้จะต้องมีการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่ายให้ชัดเจนก่อนเริ่มกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมีเซ็กซ์ และต้องสามารถเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ฤทธิ์ของสารเสพติดอาจทำให้ความสามารถในการพิจารณาและตัดสินใจของคุณบกพร่องได้ ดังนั้น ก่อนที่จะให้ใครเข้ามาร่วมไฮที่ห้องของคุณ หรือก่อนที่คุณจะไปร่วมไฮที่ห้องของคนอื่น ทุกคนที่เข้าร่วมควรกำหนดขอบเขตของกิจกรรมทางเพศ โดยเฉพาะเรื่องที่ทำได้หรือทำไม่ได้ระหว่างมีเซ็กส์

จำไว้ว่า เซ็กส์ที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม คือ การข่มขืน และการข่มขืนและการล่วงละเมิดทางเพศเป็นอาชญากรรม

หากไม่รู้จะบอกฝ่ายตรงข้ามอย่างไร เปิดเพลงนี้ของ Milli ให้ฟังก่อนไฮได้

ถ้าคุณเป็นคนจัดไฮ-ฟัน คุณต้องรับผิดชอบในการเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกบังคับให้มาเข้าร่วมไฮโดยไม่ยินยอมพร้อมใจ

ยาอีมักพบในลักษณะแคปซูล เม็ด หรือผง 

ยาอีแบบเม็ดมีหลายขนาด รูปร่าง และหลากสี มักมีรอยประทับตราบนเม็ดเป็นสัญลักษณ์ต่างกัน ผู้ใช้จึงมักเรียกชื่อยาตามรอยประทับบนตัวยา

การใช้ยาหรือสารใดๆ ไม่มีระดับที่ ปลอดภัย  การใช้สารทุกชนิดมีความเสี่ยง จึงต้องระมัดระวังเมื่อใช้เสมอ หากเสพโดยวิธีสูดดม ละลายน้ำดื่ม หรือกลืน ยาจะใช้เวลาสักพักกว่าจะออกฤทธิ์ การออกฤทธิ์ของยาอีในแต่ละคนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่

– น้ำหนักตัวของผู้ใช้               

  สุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ใช้

  ความถี่ของการใช้

  การใช้ร่วมกับยาหรือสารตัวอื่น เช่น ยาที่แพทย์สั่งจ่าย

  ปริมาณที่ใช้

  ความบริสุทธิ์ของยา (ซึ่งยาผิดกฎหมายมักไม่มีมาตรฐาน)

ยาอีจะออกฤทธิ์หลังเสพประมาณ 20 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และอยู่ได้นานกว่า 6 ชั่วโมง อาการที่พบ ได้แก่

  ความมั่นใจเพิ่มขึ้น รู้สึกสนุกสนาน และเคลิบเคลิ้มเป็นสุข

– รูม่านตาขยาย

– ความยับยั้งชั่วใจน้อยลง

– กัดฟัน (กัดกราม)

– การรับรู้เฉียบขึ้น

– เหงื่อออกมาก

– คลื่นไส้ ความอยากอาหารลดลง

– หัวใจเต้นเร็ว

– เสี่ยงขาดน้ำ

– ภาวะฉุกเฉินจากความร้อน หรือฮีทสโตรก 

การเสพยาอีเป็นประจำและต่อเนื่องอาจทำให้ผู้ใช้มีอาการ ดังนี้

– ซึมเศร้า หดหู่

– ความจำเสื่อม ประสาทการรับรู้เสียหาย

– เสพติดยา

– วิตกกังวล หวาดระแวง

– ตับและไตถูกทำลาย

– เสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน

ช่วงที่ยาอีหมดฤทธิ์จะทำให้คุณรู้สึกค่อนข้างแย่ คุณจะรู้สึกไปสารพัด แต่อย่าเพิ่งคิดว่าชีวิตถึงจุดจบแล้ว จิตใจคุณแค่อยู่ในช่วง “ขาลง” และความรู้สึกแย่ต่างๆ ก็จะค่อยๆ หายไปตามเวลา

เมื่อยาอีเริ่มหมดฤทธิ์ คุณอาจมีอาการ 

– กระสับกระส่าย ฉุนเฉียวง่าย กระวนกระวาย

– หวาดระแวง

– หดหู่

– อารมณ์แปรปรวน

– เฉื่อยชา

– เหนื่อยล้า

– นอนหลับมากขึ้น

– โกรธง่าย

ร่างกายของคุณก็เจอศึกหนักเหมือนกัน ดังนั้นคุณก็ควรดูแลตัวเองบ้าง เรามีข้อแนะนำมาฝาก

– กินอาหารให้อิ่มก่อนจะใช้ยาช่วยได้ และกินรองท้องเรื่อยๆ ด้วย

– เช็คให้แน่ใจว่าตุนอาหารสำรองไว้ในตู้เย็นสำหรับตอนปาร์ตี้หรือตอนที่ดาวน์แล้ว ยังไงสารอาหารก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย

– อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ คุณต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเสมอ

– วางแผนลางานสักหนึ่งถึงสองวัน เผื่อไว้ให้ร่างกายได้พักพื้นจากฤทธิ์ยา จะได้ไม่ทำให้งานเสียหาย

– ถ้าคุณกินยาต้านเอชไอวีหรืออยู่ในช่วงกินยา PrEP หรือยา PEP อย่าลืมตั้งเวลากินยาในโทรศัพท์เผื่อกันลืม และถ้าต้องออกไปปาร์ตี้ข้างนอกหลายวันก็เช็คให้แน่ใจว่าเอายาไปด้วยครบ 

– ดูแลตัวเองให้ดี ทำตัวให้สบายและปลอดภัยด้วย ลองแช่น้ำอุ่นๆ ออกไปเที่ยวกับเพื่อน นอนพักผ่อนหรือดูรายการตลกๆ ทางทีวีบ้าง

– ผ่อนคลายด้วยดนตรีสบายๆ เพลย์ลิสต์นี้ก็ชิลดีนะ ลองฟังสิ

– ในช่วงที่ยาเริ่มหมดฤทธิ์ บางครั้งคุณจะรู้สึกอ่อนไหวง่าย จำไว้ว่าคุณร้องไห้ได้ และการร้องไห้จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้บ้างด้วย ไม่ลองให้แอนนี่กับผองเพื่อนยูนิคอร์นเหล่านี้ช่วยสักหน่อยหรอ ถ้ายังไม่ดีขึ้นลองโทรหาเพื่อนหรือขอความช่วยเหลือจากที่นี่ดู

ถ้าคุณคิดจะใช้ยาหรือสารใดๆ ก็ต้องใช้ให้ปลอดภัย คุณตัดสินใจเองว่าจะนำสารใดเข้าสู่ร่างกาย แต่ไม่ว่าจะเลือกอะไร ก็ต้องแน่ใจว่ามีความปลอดภัย และให้มีผลกระทบต่อตัวเองและผู้อื่นน้อยที่สุด  

เราจึงมีข้อแนะนำมาให้คุณ

– กำหนดขอบเขตให้ตัวเอง และยึดด้ตามที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด

– อย่ายอมให้คนอื่นบังคับให้คุณใช้ยา

– หลีกเลี่ยงการผสมหรือใช้ยาร่วมกันหลายชนิด หรือถ้าจะทำจริงๆ ก็ต้องหาข้อมูลความเสี่ยงให้มั่นใจก่อน

– เช็คให้แน่ใจว่าคุณกำลังใช้ยาอะไร และปริมาณเท่าไหร่แล้ว ถ้าคุณต้องการแหล่งข้อมูล ลองดูเว็บไซต์ PillReports.net ที่เปิดให้บุคคลที่ไม่เปิดเผยตัวตนรีวิวและเผยแพร่ผลทดสอบทางเคมีของยาเสพติดต่างๆ ปัจจุบันมีรายงานยากว่าหนึ่งพันฉบับ และมีผู้เข้าชมหลายพันคนจากทั่วโลก อย่างไรก็ตามข้อมูลในเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลทางการแพทย์ ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน

– กินอาหารก่อนเริ่มปาร์ตี้ และดื่มน้ำให้เพียงพอเสมอ

– ระหว่างที่คุณใช้ยาอี ต้องระวังไม่ให้ดื่มน้ำมากเกินไป ฤทธิ์ของยาอีทำให้ร่างกายควบคุมอุณภูมิในตัวได้ยาก จึงควรจิบน้ำในปริมาณพอเหมาะตลอดเวลาแทน

– ถ้าจะออกไปสุดเหวี่ยงในค่ำคืนแสนพิเศษ ทิ้งบัตรเอทีเอ็มไว้ที่บ้าน ตั้งลิมิตการใช้เงินของตัวเอง และอย่าลืมเผื่อเงินค่ารถกลับบ้านไว้ด้วย

– บอกเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ก่อนว่าคุณกำลังจะทำอะไร

– อย่าขับขี่รถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์เอง ถ้าคุณคิดว่าคืนนั้นจะไฮแน่ๆ

– ถ้าคุณรู้สึกไฮ แต่ขับรถส่วนตัวมา ให้ทิ้งรถไว้ที่ร้านและกลับบ้านด้วยแท็กซี่ หรือ แกร็บคาร์ แล้วค่อยกลับมาเอารถวันต่อไปเมื่อคุณสร่างเมาแล้ว หรืออาจใช้บริการแอ็ป YouDrinkIDrive ที่จะส่งคนขับมาขับรถส่งคุณกลับบ้านให้

– ตั้งเบอร์เพื่อนสนิทไว้เป็นเบอร์โทรฉุกเฉิน เผื่อไว้ติดต่อให้มารับคุณในวันที่คุณไฮหนักและอยู่คนเดียว ในโทรศัพท์แอปเปิ้ลสามารถตั้งค่าการโทรด่วนไปยังเบอร์โทรฉุกเฉินได้ทันที ถ้าคุณมีโทรศัพท์ไอโฟนก็อย่าลืมใช้ให้คุ้มล่ะ

การเสพยาอีปริมาณมากหรือแรงมากอาจทำให้เสพยาเกินขนาดได้ ยาที่ผลิตอย่างผิดกฎหมายและขายในตลาดมืดจะมีความบริสุทธิ์ต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะถูกผสมหรือเจือจางด้วยสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ถ้าคุณหรือคนที่คุณรู้จักมีอาการต่อไปนี้หลังเสพ จะต้องเรียกรถพยาบาลทันที

– หัวใจเต้นเร็ว ไม่สม่ำเสมอ

– ตัวสั่นอย่างรุนแรง 

– ความดันโลหิตสูง หายใจติดขัด

– เจ็บหน้าอก

– กระวนกระวาย หรือหวาดระแวงอย่างรุนแรง

– ลมชัก

– หมดสติ

– อาการของโรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองอุดตัน

ติดต่อรถพยาบาลได้ที่เบอร์โทรฉุกเฉิน

หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กทม. 1646 

หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ  1669

การโทรเรียกรถพยาบาลจะไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจแต่อย่างใด

ถ้าคุณใช้ยาอีร่วมกับการมีเซ็กส์ คุณอาจปลดล็อกความต้องการทางเพศของตัวเองจนกล้าทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำตอนที่ไม่ได้ใช้ยา หรือทำสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากทำจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น โอม ในตอนที่มีสติจะเช็คตลอดว่าผู้ชายที่จะเอาเขาต้องใส่ถุงยางตลอด แต่เมื่อใช้ยา โอมกลับยอมให้ใครก็ไม่รู้สอดใส่และปล่อยน้ำข้างในโดยไม่ได้ป้องกัน ทำให้โอมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี

ถ้าคุณมักเข้าร่วมไฮฟันและไม่ได้สวมถุงยางบ่อยๆ คุณควรพิจารณาการกินยาเพร็พ (PrEP) ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ หาข้อมูลเรื่องยาเพร็พได้ที่นี่ถ้าคุณใช้ยาอีร่วมกับการมีเซ็กส์ คุณอาจปลดล็อกความต้องการทางเพศของตัวเองจนกล้าทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำตอนที่ไม่ได้ใช้ยา หรือทำสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากทำจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น โอม ในตอนที่มีสติจะเช็คตลอดว่าผู้ชายที่จะเอาเขาต้องใส่ถุงยางตลอด แต่เมื่อใช้ยา โอมกลับยอมให้ใครก็ไม่รู้สอดใส่และปล่อยน้ำข้างในโดยไม่ได้ป้องกัน ทำให้โอมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี

ถ้าคุณมักเข้าร่วมไฮฟันและไม่ได้สวมถุงยางบ่อยๆ คุณควรพิจารณาการกินยาเพร็พ (PrEP) ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ หาข้อมูลเรื่องยาเพร็พได้ที่นี่

ผลของการใช้ยาอีร่วมกับยาอื่น ๆ เช่น ยาที่ซื้อตามร้านขายยา หรือยาที่แพทย์สั่งจ่าย ไม่สามารถคาดการณ์ได้ และอาจเป็นอันตราย อาการของผู้ใช้ที่พบรายงานแล้ว ได้แก่

ยาอี + แอลกอฮอล์ เพิ่มความเสี่ยงของภาวะร่างกายขาดน้ำ หรืออาจทำให้ดื่มน้ำมากเกินไป

ยาอี + แอมเฟตามีน (ยาบ้า) เพิ่มโอกาสเกิดอาการวิตกกังวล และลดประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เนื่องจากสมองขาดสารโดปามีน ร่างกายและหัวใจทำงานหนักซึ่งอาจนำไปสู่อาการเส้นเลือดในสมองอุดตัน

ยาอี + ยาต้านเศร้า ส่งผลเสีย เช่น หัวใจเต้นเร็ว สูญเสียการทรงตัว คลื่นไส้ อาเจียน

ถ้าคุณกินยาเพร็พที่มียาในกลุ่ม PI (Protease Inhibitors) ร่วมกับเสพยาอี อาจทำให้ยาเกิดปฏิกิรยาต่อกันและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้ คุณควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดรวมถึงปรับขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ testBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆจากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง

ถ้าคุณกินยาเป๊บที่มียาในกลุ่ม PI (Protease Inhibitors) ร่วมกับเสพยาอี อาจทำให้ยาเกิดปฏิกิรยาต่อกันและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้ คุณควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดรวมถึงปรับขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ testBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆจากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง

ถ้าคุณมีผลเลือดบวกและกินยาต้านไวรัสกลุ่ม PI (Protease Inhibitors) ร่วมกับการเสพยาอี ยาต้านกลุ่มนี้จะเพิ่มขนาดยาอีในร่างกาย  ทำให้เกิดโอเวอร์โดส และส่งผลกระทบต่อร่างกายร้ายแรงจนอาจเสียชีวิตได้

ถ้าคุณเป็นผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและใช้สารเสพติด ควรปรึกษาและตรวจสุขภาพกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ testBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆจากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง 

รู้สึกแย่มากไหมช่วงนี้? ถ้าการใช้ยาอีของคุณเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัว ความสามารถในการทำงานหรือเรียน หรือกระทั่งเงินในกระเป๋า นี่อาจถึงเวลาที่จะต้องติดต่อคนที่ช่วยคุณได้แล้ว

มีวิธีบำบัดมากมาย และมีหลายองค์กรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่คุณและคนรอบข้าง ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการควบคุม ลด หรือเลิกการใช้ยา ขอแค่คุณเรียกหา ก็จะมีคนช่วยเสมอ

ถ้าคุณกังวลใจเกี่ยวกับการติดยาเสพติดหรือมีปัญหาสุขภาพจิตที่เกี่ยวกับการใช้สารเสพติด อย่าเก็บไว้คนเดียว คุยกับผู้เชี่ยวชาญดีกว่า ไม่ว่าจะโทรเพื่อขอคำปรึกษาด้านจิตใจ ในกรณีที่คุณมีความคิดฆ่าตัวตาย หรือเกิดความเครียด หรือเพียงต้องการหาข้อมูลเบื้องต้นของบริการด้านสุขภาพที่เหมาะกับคุณต่อไป ก็สามารถโทรได้ ฟรี และข้อมูลของคุณจะถูกเก็บเป็นความลับ

ค้นหาสายด่วนให้ข้อมูลและคำปรึกษา 

ศูนย์ลดอันตราย หรือศูนย์ดรอป-อินมีบริการที่ช่วยลดภาวะเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาได้ เช่น บริการเข็มฉีดยาสะอาด และถ้าคุณมีเป้าหมายในการลดการใช้ยา ศูนย์ดรอปอินเหล่านี้ก็ช่วยคุณได้ แน่ใจได้เลยว่าคุณจะได้รับบริการในพื้นที่ปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นมิตรและพร้อมสนับสนุนคุณเสมอ

ค้นหาสถานบริการด้านการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด

ถ้าคุณกำลังมองหาบริการบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ มีสถานพยาบาลจำนวนมากที่พร้อมสนับสนุนให้คุณบรรลุเป้าหมายในการลด ละ เลิกใช้ยา โดยมีทั้งบริการแบบผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการ การถอนพิษยา การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการติดตามผล

ค้นหาสถานบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ

การตรวจเลือดและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำอย่างน้อยทุกๆ สามเดือนเป็นเรื่องสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ ถ้าคุณไปที่คลินิกที่ร่วมกับ testBKK เราขอรับรองว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใดๆ จากการเปิดเผยประวัติการใช้ยาของตัวเอง และคุณสามารถจองคิวตรวจเลือดล่วงหน้าซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องรอคิว ได้รับการตรวจที่รวดเร็ว เป็นความลับ และไม่ต้องเปิดเผยตัวตน

จองคิวตรวจกับคลินิกที่ร่วมกับ testBKK

การถอนยาอีหลังจากเสพมานานเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ร่างกายจะต้องปรับตัวอย่างมากต่อการใช้ชีวิตที่ไม่พึ่งยาอีก อาการถอนยาจะแสดงออกในหนึ่งอาทิตย์ และหายไปหลังเลิกยาได้หนึ่งเดือน อาการที่พบได้แก่

– เจ็บปวดตามตัว

– เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ

– วิตกกังวล ซึมเศร้า

ข้อมูลในเว็บไซต์ TestBKK เป็นเพียงข้อมูลแนะนำทั่วไปเท่านั้น  ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ถ้าต้องการคำแนะนำเรื่องยาอี คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

MENU

SOCIAL MEDIA