เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “มาร์ค เจคอบส์” (Marc Jacobs) คิดว่าคงเป็นที่คุ้นหูของใครหลาย ๆ คนเป็นอย่างดี ทั้งในฐานะชื่อแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลก และในฐานะแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ตอนนี้กำลังสนุกการทำแบรนด์ทำแบรนด์ของตัวเอง หลังจากทำงานให้แบรนด์หลุยส์ วิตตองมานานถึง 16 ปี โดยโบกมือลากันช่วงปลายปี 2013 เป็นช่วงเดียวกับที่เขาต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มรุ่นลูก ความเก๋คือพ่อหนุ่มคนนั้นเป็นดาราหนังโป๊ซึ่งก็ไม่มีใครมีปัญหาใด ๆ กับคู่รักคู่นี้ เพราะทุกคนรู้ว่ามีวิธีมากมายหลากหลายในการดูแลตัวเองไม่ให้ติดโรค เช่น การหมั่นตรวจเลือด และกินยา PrEP ต่อมาใน 2019 นางแต่งงานกับแฟนหนุ่มเจ้าของกิจการเทียนหอมสุดแซ่บ เรียกได้ว่าทั้งลัคกี้อินเลิฟและลัคกี้อินเกมส์ในวัย 55 ปี (ณ ขณะนั้น ตอนนี้เจคอบส์อายุ 57 ปี และยังดูดีมว๊ากกก)
พูดถึง 2019 นอกจากจะอินเลิฟกับคุณสามีแล้ว ยังเป็นปีที่ทุกคนในโลกออนไลน์รอดูโพสต์ #OOTD ของเจคอบส์ในแต่ละวันว่าจะมาในลุคไหน เป็นใครก็ตื่นเต้น เพราะคนมีภาพจำเจคอบส์ในลุคที่ดูเรียบหรู สีโมโนโทนสไตล์หลุยซ์ วิตตอง ค่อย ๆ แสดงความเป็นตัวเองมากขึ้น จนถึงจุดที่นางใส่แมชหลาย ๆ ลุคกับรองเท้าบูทส้นตึกแพลทฟอร์ม สูงอย่างน้อย 4 นิ้ว กับสร้อยคอมุก และแจ็คเก็ตลายเสือดาว พร้อมกับโชว์เล็บสั้นที่เพ้นท์เป็นลายการ์ตูนน่ารัก บางวันนึกสนุกนางก็จะทาตาสีฟ้าแบบไม่คอนทัวร์ ฟ้าชัด ๆ กลิตเตอร์ปัง ๆ บนใบหน้าที่กรูมมิ่งเครามาอย่างสวยงาม วันไหนใส่กระโปรงสั้นหรือกางเกงขาสั้นเราก็จะเห็นได้ว่านางจงใจไม่โกนขนหน้าแข้ง ซึ่งก็ไม่ได้ดูรบกวน total look ของเจคอบส์แม้แต่น้อย
ความรู้สึกที่เราจะได้จากการดูโพสต์ต่าง ๆ ของเจคอบส์คือ เขาเป็นที่ให้เอเนอร์จี้ดี ๆ กับคนรอบข้างเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบรรยายภาพแบบชิล ๆ เช่น ในอากาศหนาว เจคอบส์ในเสื้อกันหนาวตัวหนาสีสันสดใสคู่กับสามี ใต้ภาพเขียนว่า “หนาว ๆ แบบนี้ไม่ต้องห่วงจ้ะ เราเตรียมตัวมาอย่างดี” (เลื่อนไปดูภาพได้) พร้อมกับแท็กแบรนด์เสื้อกันหนาวที่ตัวเองใส่ เรื่องนี้ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เจคอบส์มักจะซัพพอร์ทแบรนด์เสื้อผ้าที่เขาใส่อย่างโจ่งแจ้งโดยการขยันติดแฮชแท็กและแท็กทุกแบรนด์ที่อยู่ในลุคนั้น ๆ โดยเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่โพสต์ขายของ ซึ่งตรงนี้จะต่างจากเซเลบริตี้หลายคน ที่จะใส่แต่เสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเอง หรือที่เป็นงานจ้าง TestBKK มีภาพบางส่วนมาให้ดูพอเป็นน้ำจิ้ม ใครอยากดูให้จุใจ ตามไปส่องมาร์ค เจคอบส์ในอินสตาแกรมกันเลยครับ instagram.com/themarcjacobs
https://youtube.com/watch?v=FZNrVYsw4Oc%3Fcontrols%3D1%26rel%3D0%26playsinline%3D0%26modestbranding%3D0%26autoplay%3D0%26enablejsapi%3D1%26origin%3Dhttps%253A%252F%252Fwww.testbkk.org%26widgetid%3D1
อย่างที่หลายคนเข้าใจและ ว่าเสื้อผ้ามันต้องมีเพศกำหนดไม่เพศชายก็เพศหญิง คนคนนี้จะเป็นแรงบันดาลใจใหม่ให้เห็นว่าจริงๆแล้วเสื้อผ้าหรือสไตล์เนี่ยมันไม่มีเพศ
มาร์คไบร์อัน ชาวอเมริกันวัย 61 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเยอรมันนี กับไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่โดนเด่นของการไปทำงานของเค้า มาร์คจะแต่งมาพร้อมกับกระโปรง รองเท้าส้นเข็มที่เป็นสไตล์ของเค้า รวมไปถึงการเล่นเปลี่ยนสไตล์ ดังในภาพ
แน่นอนหลาย ๆ คน คงมีคำถามแหละว่า เห้ย!เค้าแต่งตัวแบบนี้ต้องเป็นสาวแน่ ๆ ต้องเป็นเกย์ชัวร์ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นมาจากแบบแผนของสังคม (stereotype) จริง ๆ แล้วคุณมาร์ค เป็นคุณพ่อลูกสามที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหลังแต่งงานเหมือนคุณพ่อคนทั่วไป อีกทั้งเค้ายังทำงานเป็นวิศวกรหุ่นยนต์ และเป็นโค้ชให้กับทีมฟุตบอลประจำท้องถิ่นอีกด้วย
จากบทสัมภาษณ์กับ Interviewmagazine หนึ่งในคอลเลคชั่นรองเท้าของเขามาจากแบรนด์ Louboutins แบรนด์รองเท้าสนสูงชื่อดังที่หลาย ๆ คนรู้จัก เขาชอบรถยนต์ความเร็วสูง ชอบผู้หญิงสวย ๆ และก็ชอบออกกำลังกายโดยเฉพาะการปั่นจักรยาน เรื่องราวของเค้าน่าสนใจเพราะเค้าต้องเจอกับการท้าทายในเรื่องของคนที่มองเค้าอย่างแปลกประหลาดกับการแต่งตัวที่ไม่ตรงกับเพศวิถี ไม่แปลกที่หลายคนที่มีภาพในใจกับไลฟ์สไตล์ของเค้าที่ใส่กระโปรง กับรองเท้าส้นเข็มแบบเก๋เก๋ แต่เค้าก็ไม่ได้สนกับสิ่งที่คนมองและคิด เค้าอยู่ในจุดที่อายุมากจนเค้าไม่รู้สึกต้องการนึกถึงสิ่งที่คนอื่นตัดสินตัวของเค้าอีกแล้ว
“I’m at the age where I really don’t care what people think”
ต้องขอบคุณเค้านะที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราชอบแบบนี้เราจะใส่อะไรก็ได้ แต่งอะไรก็ได้ที่ทำให้เรามีความสุข สไตล์และความหลากหลายของเค้าก็ทำให้เราดูไปยิ้มไป ทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนที่กลัวที่จะแสดงความชอบที่มีความแตกต่างจากสิ่งที่คนอื่นคิดออกมา ลองดูรูปกันได้นะครับ Happy Pride Month
เป็นหนึ่งใน Headline ใหญ่ที่ทั่วโลกต้องพูดถึง เมื่อ “คอนชิตา วู้ตส์” (Conchita Wurst) จากประเทศออสเตรีย ผู้ชนะรายการ Eurovision 2014 เพราะนอกจากเสียงอันทรงพลังของเธอแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของเธอยังทำให้ทุกคนต้องหันมามอง เพราะเธอมีเพศกำเนิดเป็นชาย แต่งหญิง ไว้ผมยาว แต่ไว้หนวดเครา ผ่านมาแล้วนานถึง 7 ปี แต่ทุกคนยังคงพูดถึงวันที่เธอชนะกันอยู่ถึงทุกวันนี้ เธอเป็นใครกัน และอะไรที่พามาถึงจุดนี้ได้
คอนชิตา เวิสต์ ไม่ได้เป็นชื่อจริงของเธอ แต่เป็นชื่อที่ใช้ในการประกวด จริง ๆ แล้วชื่อของเธอคือ “โทมัส นิวเวิร์ธ” (Thomas Neuwirth) ในที่นี้ขอเรียกว่าโทมัส โทมัสเกิดในเมืองเล็ก ๆ ชื่อ แบด มิทเทิร์นดอร์ฟ (Bad Mitterndorf) เป็นชนบทในประเทศออสเตรีย เขาเป็นเกย์ที่เปิดเผยตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ทำให้ชีวิตเขาราบรื่นเท่าไหร่นัก ในวัย 14 ปี โทมัสได้ย้ายไปเข้าโรงเรียนแฟชั่น ทำให้เขาเริ่มเข้าวงการดนตรีจากการตั้งวงดนตรีบอยแบนด์ ชื่อ “เยทซ์ อานเดอรส์!” (Jetzt Anders!) แต่ก็อยู่ได้ไม่ถึง 1 ปีก็ล้มเลิกไป หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปออกแข่งรายการ Starmania และได้รางวัลที่ 2 ในปี 2006 ต่อมาเขาก็ได้สร้างตัวตน Drag queen ของตัวเองขึ้นมาและตั้งชื่อว่า “คอนชิตา เวิสต์” ในรายการ Die große Chance ในปี 2011 และในปี 2013 คอนชิตาก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนออสเตรียในการแข่งขันรายการ Eurovision ในปี 2014 และเธอก็ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ในชีวิตส่วนตัว โทมัสได้เปิดเผยว่าเป็นผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV แต่ได้ทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอจนทำให้ค่าไวรัสต่ำมากจนไม่สามารถตรวจเจอเชื้อได้ หรือที่เรียกว่า U=U คือ ไม่ตรวจพบไวรัสเท่ากับไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ สำหรับตัวตนของคอนชิตา เวิสต์ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างตัวตนบนเวทีจากบียอนเซ่ที่สร้างซาช่า เฟียร์ส (Sasha Fierce) และได้สร้างเรื่องราวว่าเธอได้เกิดจากบนเทือกเขาในโคลอมเบียและแต่งงานกับนักเต้นเบอร์เลส (Burlesque) จากฝรั่งเศส ชื่อ Jacques Patriaque ซึ่งเป็นเพื่อนจริง ๆ ของ โทมัสให้เหตุผลหลัก ๆ ที่เจ้าตัวสร้างตัวตนอีกคนขึ้นมาบนเวทีเพื่อปกป้องชีวิตส่วนตัวที่ตัวเองใช้ชีวิตอยู่
ทีม TestBKK ขอยกย่องและสรรเสริญในการกล้าเปิดเผยสถานะทาง HIV และการใช้ตัวตน Drag queenในแบบฉบับตัวเองออกมาให้ทั่วโลกได้จับตามอง
https://youtube.com/watch?v=MS1xLdrF-Gk%3Fcontrols%3D1%26rel%3D0%26playsinline%3D0%26modestbranding%3D0%26autoplay%3D0%26enablejsapi%3D1%26origin%3Dhttps%253A%252F%252Fwww.testbkk.org%26widgetid%3D3