ทำความสะอาดน้องชายอย่างไรให้ปังสุด

ทำความสะอาดน้องชายอย่างไรให้ปังสุด

ตั้งแต่จำความได้ เคยคิดถึงการดูแลน้องชายของตัวเองอย่างไรบ้าง น้องชายที่ว่าเนี่ย คือจู๋นั้นแหละ จู๋ที่ไม่ใช่เจ้าจำปีน้อยอีกต่อไป

แล้วจะรู้ได้อย่างไรละว่าที่เราทำความสะอาดน้องชายทุกวันนี้ สะอาดดีพอแล้ว อย่างเวลามีขี้เปียก ควรล้างกับสบู่หรือล้างน้ำปกติ หรือล้างกับน้ำยาจุดซอนเร้น  วันนี้เทสบีเคเคมีความรู้และเทคนิคเรื่องการดูและน้องชายมาแชร์ ไม่ว่าจะเรื่องการเช็ดล้าง ไปจนถึงการดูแลยามน้องไม่สบาย

มาดูลักษณะของน้องชายแต่ละประเภทกันก่อนว่ามีแบบไหนบ้าง โดยเราจะแบ่งออกเป็นสามแบบตามรูปด้านล่าง

Picture from: theconversation.com/how-do-i-clean-my-penis-125135

Unretracted foreskin น้องชายที่มีหนังหุ้มปลายมิดชิดแบบไม่เห็นหัวกันเลยทีเดียว ดึงก็ไม่ลงด้วยนะ คือเหมือนเจ้าจำปียักษ์

Retracted foreskin น้องชายที่มีหนังหุ้มปลายอยู่แต่สามารถดึงลงมาเซย์ไฮกับหัวน้องชาย

Circumcised penis น้องชายที่ไม่ทีหนังหุ้มปลายเท่าไหร่ละ เพราะได้ทำการขลิบไปแล้ว โดยมากทำตั้งแต่เด็กเพื่อตามคำแนะนำของแพทย์หรือตามความเชื่อทางศาสนา (คริสต์/อิสลาม)

หนังหุ้มปลายของน้องชาย

โดยปกติแล้วหนังหุ้มปลายน้องชายของเราจะเริ่มค่อย ๆ แยกออกจากหัวน้องชายเมื่อเรามีอายุประมาณ 5 ขวบ ถึงเพลานี้หัวน้อยชายของเราก็จะดึง (ชัก) เข้า ๆ ออก ๆ ได้ ซึ่งในบ้างคนหนังส่วนปลายนี้อาจจะปิดหุ้มยาวไปจนถึงช่วงวัยรุ่นกว่าหัวน้องจะยอมออกมาก็มี แต่ก็มีบางเคสที่จนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วหัวน้องชายก็ยังไม่สามารถออกมาเจอโลกกว้างได้เพราะหนังหุ้มปลายไม่มีหุ้มน้องชายไว้จนมิด พูดง่าย ๆ คือถอกไม่ลงนั่นเอง

ข้อควรระวัง

ไม่ควรฝืนดึงหนังหุ้มปลายน้องชาย เพราะอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ อาจทำให้เลือดไหลหรือเป็นแผลได้ ซึ่งจะทำให้เสี่ยงในการติดโรคอย่างอื่นขึ้น ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์และอาจทำการผ่าตัดเพื่อให้หัวน้องออกมาได้ และไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรค

มาที่ขั้นตอนของการทำความสะอาดน้องชายของคุณกัน

เมื่อน้องชายของคุณเริ่มเปิดได้ (หนังหุ้มปลายชักเข้าชักออกได้โดยไม่ที่ไม่ต้องไปฝืนมัน) เราก็เปิดมันแล้วทำความสะอาดระหว่างอาบน้ำ หลังจากนั้นก็ปิดหนังหุ้มให้กลับไปในที่ของน้องตามปกติ

หลังจากนั้น เมื่อเราเช็ดตัว เราก็เปิดหนังหุ้มน้องชายเช็ดด้วยผ้าขนหนูสะอาด ๆให้แห้ง เห็นแห้งพอสมควรแล้วเราก็ทำให้หนังหุ้มกลับไปเป็นแบบเดิม

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ชำระล้าง เราสามารถใช้สบู่ได้แต่ไม่ควรใช้ในปริมาณที่เยอะจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ผิวที่อ่อนโยนของน้องชายเราแห้งตึงจนเกินไป (เปรียบเทียบเหมือนเราเอาน้ำยาล้างจานมาล้างหน้า) ฟอกนาน หรือขัดถูแรงจนเกินไปก็อาจจะทำให้น้ำมันธรรมชาติบนผิวหนังถูกล้างออก ทำให้การรักษาความชุ่มชื่นลดลงและแรงเสียดท้านผิวเพิ่มขึ้นได้ (ผิวเอี๊ยด) แต่ถ้าหากผิวของคุณค่อนข้างโอนโยนควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน หรือมีสารเคมีผสมอยู่จำนวนน้อย เช่น ผลิตภัณฑ์อาบน้ำสำหรับเด็ก หรือผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น (ของผู้หญิงหรือผู้ชายก็ใช้ร่วมกันได้หมดจ้า)

มากันที่ “ขี้เปียก”

เคยสงสัยกันไหมสีขาว ๆ ดูเหมือนรา มีกลิ่นเฉพาะตัวคืออะไรกัน 

ขี้เปียก มีลักษณะเป็นก้อน ๆ หรือขุย ๆ หนา ๆ สีขาว จากการผลัดเซลล์ มีพวกไขมันหรือสารของเหลวบริเวณภายใต้หนังหุ้มน้องชาย ขี้เปียกมีข้อดีอยู่น๊า เพราะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นสารล่อลื่นให้กับน้องชายของคุณ (ถ้าไม่มีมากจนเกินไป)

ในผู้ชายหลายคนที่มีผิวมันก็จะมีแน้วโน้มที่จะมีขี้เปียกมากกว่าคนอื่น แน่นอนว่าการมีขี้เปียกบนน้องชายเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากมีมาก (แบบมาก ๆ) ก็อาจจะเป็นที่มาของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เจ้าตัวก็ควรทำความสะอาดเป็นประจำเพื่ออนามัยและความเซ็กซี่นะครับ

ข้อสังเกตว่าเมื่อไรที่เราควรพาน้องชายไปหาหมอ

การหาหมอไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่ว่าจะหาหมอกาย หมอใจ หรือหมอน้องชาย เพราะการอ่านจากกูเกิ้ลแล้วเป็นคุณหมอวินิจฉัยอาการด้วยตนเอง บางครั้งอาจจะทำให้อาการลุกลามใหญ่โตเกินกว่าจะแก้ไข
ก่อนอื่น! หากคุณมีหนังหุ้มปลาย มันเป็นเรื่องปกติมากถ้าน้องของคุณจะมีกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเอ็กซ์ตร้าขี้เปียก กลิ่นฉี่ หรือรู้สึกระคายเคืองในบางครั้ง เพราะโพรงน้อย ๆ บริเวณหนังส่วนปลายจะเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกว่าได้กลิ่นจู๋ตัวเองตลอดเวลา (ผู้หญิงก็เป็นนะ) หรือรู้สึกว่าจู๋เปียกตลอดเวลา ซึ่งทางแก้ก็ไม่พ้นการรักษาความสะอาดอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น แต่อย่ากังวลเกินจนต้องพาน้องไปเช็ดล้างทั้งวันล่ะ เพราะอาจจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ ข้อดีของการมีหนังหุ้มคือลดการสัมผัสหัวน้องโดยตรงกับพื้นผิวใด ๆ และช่วยให้หลั่งช้าลง (กรณีหลั่งเร็ว)

ข้อสังเกตเบื้องต้น ถ้าบริเวณหัวน้องชายของคุณเริ่มแดง ๆ คัน ปวด หรือมีอาการของการระคายเคืองอื่น ๆ แปลว่าอาจมีการอักเสบ คุณควรไปพบคุณแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและรักษาอย่างถูกวิธี การซื้อยากินเองตามโฆษณาที่เด้งในกูเกิ้ลบางครั้งอาจทำให้คุณเสียเวลาและยังคงต้องไปหาหมออยู่ดี โดยเฉพาะหากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) เช่น หนองใน ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ และเดี๋ยวนี้ยังมีหนองในดื้อยาอีกต่างหาก แปลว่ากินยาแบบที่กิน ๆ กันทั่วไปก็ไม่หายแล้วจ้า อมจีมั้ยล่ะทุกโค๊น

จริง ๆ แล้วบ้างกรณีเราก็สามารถทำการรักษาได้ด้วยตนเองนะ เช่น ยาทารักษาเชื้อรา ระหว่างช่วงที่ทายาต้องรักษาความสะอาดเป็นอย่างดีควบคู่กันไปด้วย ต้องระวังห้ามให้ฉี่โดนบริเวณที่เป็นเชื้อราและพยายามให้บริเวณนั้นแห้งตลอดเวลา คือฉี่แล้วต้องล้างน้ำสะอาดและซับให้แห้งทุกครั้ง หรือจะใช้ทิชชู่เปียกก็ได้ และถ้าทำทุกอย่างแล้วยังไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์ เพราะคุณอาจจะไม่ได้เป็นแค่เชื้อราแล้วก็ได้ เพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีอาการเริ่มต้นคล้ายกัน และมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

หากคุณมีอาการแสบน้องชายเวลาฉี่ หรือมีหนองไหลออกมา แนะนำให้ไปพบแพทย์ เดี๋ยวนี้สามารถจองคลินิกผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้แล้วผ่านคลินิกในเครือข่ายของเทสบีเคเคกันได้ทางลิ้งค์นี้ testbkk.org มีให้เลือกหลายที่ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย หรือใครสะดวกแถวเส้นบีทีเอส สยาม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สามารถเข้าร่วมโครงการของคลินิกชุมชนสีลมได้ รายละเอียด รักษาฟรีแถมมีค่าเดินทางให้ด้วยหากผ่านการพิจารณาและยินยอมเข้าร่วมโครงการวิจัย

ทั้งนี้ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นอะไร การไปหาหมอเพื่อรับคำปรึกษาและรักษาอาจจะเป็นทางที่ปลอดภัยและได้ผลสูงสุด น้องชายใครใครก็รัก ต้องใช้กันไปอีกนานนะทุกคน // กอด

กดจองตรวจเลือดฟรี ได้ที่ www.testbkk.org/website

และหากใครมีอาการของโรคหนองใน เช่น แสบน้องชายเวลาฉี่หรือมีหนองไหล่ออกมาจากน้องชาย สามารถเข้ารับรักษาฟรีหรือเข้าร่วมโครงการได้ที่ ทรอปเมด

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก theconversation.com/how-do-i-clean-my-penis-125135

MENU

SOCIAL MEDIA